การเดินท่อน้ำการเกษตรตัวอย่างๆครับ
ท่อ PVC 2 นิ้วอย่างบางที่ซื้อมาเพิ่มเติมสำหรับทำท่อเมน ตามแนวถนนกลางสวน วิ่งตรงไปยังท้ายสวน ส่วนทางแยกต่างๆ จะต่อท่อแยก 3 ทางแบบลดลง 1.5 นิ้ว
มองไปสุดแนวถนนเป็นสระน้ำ เป็นจุดตั้งปั๊มน้ำ และเดินด้วยท่อ 2 นิ้วตรงมาตามแนวถนน ด้านซ้ายมือจะเห็นแนวท่อ 1.5 นิ้วที่ต่อแยกเข้าหัวแปลงมะนาวแล้ว ที่ลำพูนท่อ 2 นิ้ว และท่อ 1.5 นิ้วแบบบานหัวขายดีมาก ผมเข้าไปดูที่ Global House ลำพูน ของเข้ามาวัน สองวันก็หมดแล้ว คราวก่อนไปได้ทันซื้อมาแค่ท่อ 1.5 นิ้ว ท่อ 2 นิ้วหมด ชาวสวนลำไย และร้านค้าอุปกรณ์เขามาเหมาไป ผมต้องตามไปซื้อที่ร้านข้างนอก ราคาเพิ่มไปอีกท่อละประมาณ 10 บาท แต่ก็ต้องซื้อเพราะของไม่มี และเวลา วันหยุดของผมมีน้อย ต้องรีบทำให้เสร็จ เสียเงินเพิ่มอีกไม่มาก แต่ก็ได้งานดีกว่าต้องรอไปอีกไม่รู้เมื่อไหร่ของจะมา
ท่อ 3/4 นิ้วพร้อมวาล์วที่วางระบบไว้เดิมครับ
เปลี่ยนเป็นท่อขนาด 1.5 นิ้ว แล้วต่อเข้ากับท่อ PE ตรงนี้
งานวันนี้คือต้องติดตั้งข้อต่อแยกให้กับท่อ PE ที่วางระบบไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ผมท่อแยกแบบฝังเข้าไปในท่อ PVC 1.5 นิ้วเลย ไม่ใช้ข้อต่อแยกแบบลดขนาด ประหยัดต้นทุนไว้ก่อนครับ
อุปกรณ์ที่ผมใช้งาน ต้องเจาะท่อ PVC เพื่อใส่ข้อแยก ถ้าเป็นท่อ PE ขนาด 25 มิล. ต้องเจาะด้วย Hole saw ขนาด 22 มิล. แต่ถ้าเป็นท่อ PE ขนาด 20 มิล. ต้องเจาะด้วย Hole saw ขนาด 19 มิล. ตามคู่มือการใช้งานท่อ PE ครับ ของผมใช้ทั้งท่อ PE ขนาด 25 และ 20 มิล. ตามอุปกรณ์ที่มีอยู่ ผมไม่ได้กำหนดไว้เฉพาะว่าต้องใช้ขนาดไหน เอาตามที่มีอยู่ละกัน
ว่าแล้วก็เล็งตำแหน่ง ลงมือเจาะ
ออกมาก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ ใช้มีดคัทเตอร์ เก็บเศษที่เจาะ รอบๆ รูให้เรียบร้อย ระวังเศษท่อที่เราเจาะ จะเข้าไปข้างในท่อใหญ่ เดี๋ยวจะไปอุดตันหัวสปริงเกอร์ได้ แต่ถ้ายังไม่ปิดหัวท่อไว้ก็ไม่เป็นไร ก่อนจะเดินระบบจริงก็ปิดวาล์วแยกเข้าท่อ PE ไว้ แล้วให้น้ำทำความสะอาดท่อหลักก่อน ค่อยปิดปลายท่อก็ได้
ตัวนี้เป็นบู๊ทยางกันน้ำรั่ว จำเป็นต้องใส่ตามขนาดการใช้งานครับ เขามีขายเป็นชุดของมันเลย ดูได้จากคู่มือตอนที่เราไปซื้อครับ
ใส่บู๊ทยางเข้าไปก็จะได้หน้าตาออกมาอย่างนี้
ตัวนี้ก็เป็นข้อต่อแยกจากท่อ PVC เข้าท่อ PE มันจะมีทิศทางการใส่อยู่ ด้านซ้ายยัดเข้าบู๊ทที่ท่อ PVC ด้านขวาต่อกับท่อ PE สังเกตง่ายครับ
ทิศทางการใส่ข้อแยกตามนี้ครับ
จริงๆ ขั้นตอนนี้ไม่ต้องใช้ค้อนแบบผมก็ได้ เอามือจับยัดแล้วหมุนซ้าย หมุนขวานิดหน่อยมันก็เข้าแล้ว ตอนแรกไม่รู้ใช้ค้อนยางตอก เข้ายากครับ เพราะบู๊ทยางมันดันกลับออกมา ใช้มือจับยัดง่ายกว่าเยอะ
เสร็จแล้วก็จะได้ข้อต่อแยกออกมาแบบนี้ ไม่ต้องใช้ 3 ทางลดขนาด ประหยัดไปได้อีก ไม่ต้องตัดท่อใหญ่ด้วย
เอาท่อ PE เดิมมาต่อเข้าได้เลย ผมใส่วาล์วปิดเปิดไว้เรียบร้อยแล้ว ที่จริงมันจะมีวาล์วปิด-เปิด ที่ปลายด้านหนึ่งเป็นข้อต่อเข้าบู๊ทยางได้เลยอยู่ แต่ผมซื้อแบบนี้มาก่อนแล้ว เลยใช้แบบนี้แทน เสียดาย ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วครับ
เสร็จเรียบร้อย ทำแบบเดียวกันนี้จนครบทุกแปลง
มะนาวช่วงนี้ก็แตกยอดออกมาเรื่อยๆ แต่น้ำยังไม่ค่อยทั่วถึง เพราะยังใช้สายยางอยู่ ทำให้บางต้นก็เติบโตดี บางต้นก็ไม่ค่อยจะโต เพราะบางวันมีเวลาน้อย เลิกงานค่ำ รดน้ำได้ไม่กี่ต้น อีกวันต้องมารดน้ำต่อ การได้รับน้ำไม่ต่อเนื่อง บางวันน้ำก็ไหลเื่อื่อยๆ ลากสายยางยาวๆ น้ำก็ไม่ค่อยออก ก็ต้องไปรดเอาอีกวัน น้ำประปาหมู่บ้านก็เป็นอย่างนี้แหละ ช่วงไหนที่คนใช้น้ำเยอะๆ ก็จะไม่พอไหลมาถึงสวน
อีกงานหนึ่งที่ต้องทำช่วงนี้คือ ตัดแต่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออก กิ่งที่อยู่ต่ำชิดโคนต้นเกินไป และกิ่งที่แทงเข้ากลางทรงพุ่ม กิ่งใหญ่ก็ต้องจำใจตัดออกครับ ไว้รอกิ่งใหม่ออกมาจะดีกว่า มัวเสียดายจะเสียการใหญ่
10 - 12 กุมภาพันธ์ 2556
หัวมินิสปริงเกอร์พร้อมขาปัก ผมซื้อหัวพ่นแยกมา แล้วเอามาประกอบกับขาปักเอง เพราะที่ลำพูนมีแต่ขาปัก ที่เชียงใหม่มีแต่หัวมินิสปริงเกอร์ ต้องเข้าไปซื้่อถึง 2 สาขากว่าจะได้ของมาครบ ก็ไม่รู้ว่าผู้บริหาร ผู้ัจัดการ ฝ่ายขายของ Global House เขาคิดยังไงถึงได้แยกของไปลงแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน อีกอย่างคือที่เชียงใหม่จะขายเป็นแพ็คเล็ก มีอยู่ 10 อัน แต่ที่ลำพูนจะขายเป็นแพ็คใหญ่ มีอยู่ 50 อัน ไม่รู้ว่าทำไมต้อง 2 มาตรฐาน คนซื้อละงงเลยครับ จะไปแจ้งใครให้รับทราบดีเนี่ย มันเป็นความเดือดร้อนของผู้บริโภคโดยตรงเลย
ลักษณะหัวมินิสปริงเกอร์แบบที่ผมเลือกใช้ครับ หน้าตาเป็นแบบนี้ ผมใช้แบบรัศมีน้ำประมาณ 1-1.5 เมตร อัตราการให้น้ำ 120 ลิตร/ชั่วโมง
โซนชะอมท้ายสวนผมก็วางระบบน้ำไว้ให้เช่นกัน แต่เป็นแบบสปริงเกอร์ตัวใหญ่ รัศมีประมาณ 4 เมตรได้ ชะอมรอน้ำจนจะไม่ไหวแล้ว ใบแห้ง ใบเหลืองหมดแล้ว
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็มาลองกันเลย ยกปั๊มเข้าไปต่อระบบ ลองสูบน้ำเข้่าระบบ ตอนแรกก็นึกว่าปั๊มน้ำจะปั๊มมาไม่ถึง จากสระมาถึงตรงแปลงชะอมนี้ก็ร่วมๆ 100 เมตรได้ แต่น้ำก็ยังแรงดีอยู่ แรงจนรัศมีการพ่นน้ำออกนอกแปลงชะอม
ต้องทำการหรี่วาล์วน้ำลง เพื่อให้รัศมีการพ่นน้ำพอดีกับชะอมในแปลงครับ สบายแล้วเรา ชะอมก็คงดีใจเช่นกัน น้ำมาแล้ว....
หัวมินิสปริงเกอร์แบบที่ผมเลือกใช้ จะพ่นน้ำออกมาลักษณะเป็นฝอยๆ และมีวงกว้างพอสมควร จะเอาวงกว้าง หรือวงแคบ ก็ปรับระดับขาปักให้สูง หรือต่ำเอา
เสียบปลั๊กทีเดียว ให้น้ำพรึ่บ....ทั่วทั้งแปลง สบายแล้วเรา... ดีกว่าลากสายยางฉีดทีละต้นเป็นไหนๆ รู้อย่างนี้ทำแต่แรกแล้ว แต่ก็คงทำไม่ได้หรอกครับ เพราะงบระบบน้ำเพิ่งจะได้มา ต่อจากนี้คงมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ.... สำรวจสวน ใส่ปุ๋ย ถางหญ้า ว่ากันไป แต่เดิมต้องเลือกเอาว่าวันนี้จะทำอะไร จะรดน้ำหรือว่าจะพรวนดิน ทำพร้อมๆ กันไม่ได้
ระดับน้ำในสระเดิม ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 ช่วงหน้าฝนผมก็เปิดให้น้ำจากลำเหมืองเข้ามาจนเต็ม แล้วก็ไม่ได้ใช้งานเลย มาวันนี้น้ำแห้งไปเกือบเมตรได้ คงเพราะช่วงหน้าหนาว เช้าๆ น้ำในสระระเหยกลายเป็นไอ ช่วงกลางวันก็ร้อน น้ำก็แห้งไปบ้าง ซึมลงดินบ้าง เสียดายจัง
หัวดูดน้ำผม มัดติดแกลลอนลอยไว้ ขึ้นลงตามระดับน้ำ
เจอปัญหาเข้าให้แล้วครับ เดิมทีผมใช้วิธีสูบน้ำใส่ร่องข้างแปลงชะอม แล้วใช้ที่ตักรดน้ำเอา ปั๊มน้ำก็ยกเข้า ยกออก จะใช้งานทีก็ยกมาติดตั้งกับท่อดูด แล้วสูบใส่แปลง เสร็จก็ยกไปเก็บในห้อง เพราะกลัวโดนขโมยปั๊มน้ำ เลยใช้ข้ออ่อน ซึ่งเป็นท่ออากาศของรถยนต์มาต่อ เป็นท่อที่ให้ตัวได้ จะคดซ้าย คดขวาไม่ใช่ปัญหา และอีกอย่างเวลาที่ถอดประกอบกับปั๊มน้ำจะง่าย แค่ขันปลอกรัดท่อก็ยกปั๊มน้ำไปเก็บได้แล้ว แต่คงด้วยที่ผมไม่ได้ใช้งานมานานในช่วงหน้าฝน พอเอามาสูบเข้ากับระบบท่อมันเลยมีอาการแบบนี้ แทบจะระเบิด เพราะแต่เดิมผมสูบใส่ร่อง มันไม่มีแรงดันกลับ แต่พอสูบเข้าท่อ มันมีแรงดันภายในท่อ พอไม่มีที่ออก หรือไหลออกทางสปริงเกอร์ไม่ทัน มันก็ดันท่อจนปริ และออกมาตามรูพรุน กลายเป็นน้ำพุไปเลย เป็นเฉพาะท่อทางออกนะครับ ท่อดูดไม่เป็น จะโดนไฟดูดหรือเปล่าเนี่ย
ไม่รู้ทำยังไง แก้ขัดไปก่อน หากระสอบปุ๋ยมามัดไว้ก่อน ก่อนที่จะโดนไฟดูด หรือเข้ากล่องระบบไฟของปั๊ม
ปั๊มที่ผมใช้งานก็มีหน้าตา และสเปคตามนี้ ปั๊มตัวนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นของเจ้าของสวนที่เขาใช้งานอยู่ เขาเอาให้ผมใช้ในสวนด้วย โชคดีไปไม่ต้องซื้อใหม่ ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ถ่ายด้วยกล้องมือถือครับ
ให้ดูระยะการดูดจากสระถึงตัวปั๊ม และระยะทางที่ส่งน้ำไปจนถึงท้ายสวนโน่นที่เป็นแปลงชะอมและแปลงไผ่เป๊าะอยู่ ส่วนแปลงมะนาวอยู่ประมาณกลางสวนครับ
พอลองสูบน้ำดูอีกทีก็เป็นประมาณนี้ พอทนครับ ดีกว่าแบบน้ำพุหน่อย
บริเวณแปลงไผ่เป๊าะก็ใช้ระบบเดียวกัน แต่เป็นหัวมินิสปริงเกอร์อีกแบบหนึ่ง ทรงของน้ำก็คล้ายๆ กัน แต่อัตราการให้น้ำของหัวแบบนี้อยู่ที่ 150 ลิตร/ชั่วโมงครับตามสเปค แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำที่ส่งมาตามท่อด้วย ผมก็อาศัยดูหน้าดินเอา เอาชุ่มพอประมาณเข้าว่าครับ
สรุปว่าระบบน้ำผมเป็นไปได้ด้วยดี น้ำทั่วถึงทุกแปลง แต่ยังไม่ได้ต่อระบบครบทั่วทั้งสวนในส่วนที่ปลูกไปแล้ว ถ้าครบทุกโซนคงเปิดพร้อมกันไม่ได้ แรงดันคงจะลดลงไปมาก และอีกอย่างผมยังไม่ได้ใสฟิลเตอร์กรองน้ำเลย ถ้าใส่แรงดันก็คงจะลดลงไปอีกระดับหนึ่ง ถึงเวลานั้นก็คงต้องเลือกเปิดเป็นโซนๆ ไป หรือไม่ก็ต้องติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติม ถ้าต้องการรดน้ำทั่วทุกโซนในเวลาเดียวกัน
มองไปสุดแนวถนนเป็นสระน้ำ เป็นจุดตั้งปั๊มน้ำ และเดินด้วยท่อ 2 นิ้วตรงมาตามแนวถนน ด้านซ้ายมือจะเห็นแนวท่อ 1.5 นิ้วที่ต่อแยกเข้าหัวแปลงมะนาวแล้ว ที่ลำพูนท่อ 2 นิ้ว และท่อ 1.5 นิ้วแบบบานหัวขายดีมาก ผมเข้าไปดูที่ Global House ลำพูน ของเข้ามาวัน สองวันก็หมดแล้ว คราวก่อนไปได้ทันซื้อมาแค่ท่อ 1.5 นิ้ว ท่อ 2 นิ้วหมด ชาวสวนลำไย และร้านค้าอุปกรณ์เขามาเหมาไป ผมต้องตามไปซื้อที่ร้านข้างนอก ราคาเพิ่มไปอีกท่อละประมาณ 10 บาท แต่ก็ต้องซื้อเพราะของไม่มี และเวลา วันหยุดของผมมีน้อย ต้องรีบทำให้เสร็จ เสียเงินเพิ่มอีกไม่มาก แต่ก็ได้งานดีกว่าต้องรอไปอีกไม่รู้เมื่อไหร่ของจะมา
ท่อ 3/4 นิ้วพร้อมวาล์วที่วางระบบไว้เดิมครับ
เปลี่ยนเป็นท่อขนาด 1.5 นิ้ว แล้วต่อเข้ากับท่อ PE ตรงนี้
งานวันนี้คือต้องติดตั้งข้อต่อแยกให้กับท่อ PE ที่วางระบบไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ผมท่อแยกแบบฝังเข้าไปในท่อ PVC 1.5 นิ้วเลย ไม่ใช้ข้อต่อแยกแบบลดขนาด ประหยัดต้นทุนไว้ก่อนครับ
อุปกรณ์ที่ผมใช้งาน ต้องเจาะท่อ PVC เพื่อใส่ข้อแยก ถ้าเป็นท่อ PE ขนาด 25 มิล. ต้องเจาะด้วย Hole saw ขนาด 22 มิล. แต่ถ้าเป็นท่อ PE ขนาด 20 มิล. ต้องเจาะด้วย Hole saw ขนาด 19 มิล. ตามคู่มือการใช้งานท่อ PE ครับ ของผมใช้ทั้งท่อ PE ขนาด 25 และ 20 มิล. ตามอุปกรณ์ที่มีอยู่ ผมไม่ได้กำหนดไว้เฉพาะว่าต้องใช้ขนาดไหน เอาตามที่มีอยู่ละกัน
ว่าแล้วก็เล็งตำแหน่ง ลงมือเจาะ
ออกมาก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ ใช้มีดคัทเตอร์ เก็บเศษที่เจาะ รอบๆ รูให้เรียบร้อย ระวังเศษท่อที่เราเจาะ จะเข้าไปข้างในท่อใหญ่ เดี๋ยวจะไปอุดตันหัวสปริงเกอร์ได้ แต่ถ้ายังไม่ปิดหัวท่อไว้ก็ไม่เป็นไร ก่อนจะเดินระบบจริงก็ปิดวาล์วแยกเข้าท่อ PE ไว้ แล้วให้น้ำทำความสะอาดท่อหลักก่อน ค่อยปิดปลายท่อก็ได้
ตัวนี้เป็นบู๊ทยางกันน้ำรั่ว จำเป็นต้องใส่ตามขนาดการใช้งานครับ เขามีขายเป็นชุดของมันเลย ดูได้จากคู่มือตอนที่เราไปซื้อครับ
ใส่บู๊ทยางเข้าไปก็จะได้หน้าตาออกมาอย่างนี้
ตัวนี้ก็เป็นข้อต่อแยกจากท่อ PVC เข้าท่อ PE มันจะมีทิศทางการใส่อยู่ ด้านซ้ายยัดเข้าบู๊ทที่ท่อ PVC ด้านขวาต่อกับท่อ PE สังเกตง่ายครับ
ทิศทางการใส่ข้อแยกตามนี้ครับ
จริงๆ ขั้นตอนนี้ไม่ต้องใช้ค้อนแบบผมก็ได้ เอามือจับยัดแล้วหมุนซ้าย หมุนขวานิดหน่อยมันก็เข้าแล้ว ตอนแรกไม่รู้ใช้ค้อนยางตอก เข้ายากครับ เพราะบู๊ทยางมันดันกลับออกมา ใช้มือจับยัดง่ายกว่าเยอะ
เสร็จแล้วก็จะได้ข้อต่อแยกออกมาแบบนี้ ไม่ต้องใช้ 3 ทางลดขนาด ประหยัดไปได้อีก ไม่ต้องตัดท่อใหญ่ด้วย
เอาท่อ PE เดิมมาต่อเข้าได้เลย ผมใส่วาล์วปิดเปิดไว้เรียบร้อยแล้ว ที่จริงมันจะมีวาล์วปิด-เปิด ที่ปลายด้านหนึ่งเป็นข้อต่อเข้าบู๊ทยางได้เลยอยู่ แต่ผมซื้อแบบนี้มาก่อนแล้ว เลยใช้แบบนี้แทน เสียดาย ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วครับ
เสร็จเรียบร้อย ทำแบบเดียวกันนี้จนครบทุกแปลง
มะนาวช่วงนี้ก็แตกยอดออกมาเรื่อยๆ แต่น้ำยังไม่ค่อยทั่วถึง เพราะยังใช้สายยางอยู่ ทำให้บางต้นก็เติบโตดี บางต้นก็ไม่ค่อยจะโต เพราะบางวันมีเวลาน้อย เลิกงานค่ำ รดน้ำได้ไม่กี่ต้น อีกวันต้องมารดน้ำต่อ การได้รับน้ำไม่ต่อเนื่อง บางวันน้ำก็ไหลเื่อื่อยๆ ลากสายยางยาวๆ น้ำก็ไม่ค่อยออก ก็ต้องไปรดเอาอีกวัน น้ำประปาหมู่บ้านก็เป็นอย่างนี้แหละ ช่วงไหนที่คนใช้น้ำเยอะๆ ก็จะไม่พอไหลมาถึงสวน
อีกงานหนึ่งที่ต้องทำช่วงนี้คือ ตัดแต่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออก กิ่งที่อยู่ต่ำชิดโคนต้นเกินไป และกิ่งที่แทงเข้ากลางทรงพุ่ม กิ่งใหญ่ก็ต้องจำใจตัดออกครับ ไว้รอกิ่งใหม่ออกมาจะดีกว่า มัวเสียดายจะเสียการใหญ่
10 - 12 กุมภาพันธ์ 2556
หัวมินิสปริงเกอร์พร้อมขาปัก ผมซื้อหัวพ่นแยกมา แล้วเอามาประกอบกับขาปักเอง เพราะที่ลำพูนมีแต่ขาปัก ที่เชียงใหม่มีแต่หัวมินิสปริงเกอร์ ต้องเข้าไปซื้่อถึง 2 สาขากว่าจะได้ของมาครบ ก็ไม่รู้ว่าผู้บริหาร ผู้ัจัดการ ฝ่ายขายของ Global House เขาคิดยังไงถึงได้แยกของไปลงแต่ละสาขาไม่เหมือนกัน อีกอย่างคือที่เชียงใหม่จะขายเป็นแพ็คเล็ก มีอยู่ 10 อัน แต่ที่ลำพูนจะขายเป็นแพ็คใหญ่ มีอยู่ 50 อัน ไม่รู้ว่าทำไมต้อง 2 มาตรฐาน คนซื้อละงงเลยครับ จะไปแจ้งใครให้รับทราบดีเนี่ย มันเป็นความเดือดร้อนของผู้บริโภคโดยตรงเลย
ลักษณะหัวมินิสปริงเกอร์แบบที่ผมเลือกใช้ครับ หน้าตาเป็นแบบนี้ ผมใช้แบบรัศมีน้ำประมาณ 1-1.5 เมตร อัตราการให้น้ำ 120 ลิตร/ชั่วโมง
โซนชะอมท้ายสวนผมก็วางระบบน้ำไว้ให้เช่นกัน แต่เป็นแบบสปริงเกอร์ตัวใหญ่ รัศมีประมาณ 4 เมตรได้ ชะอมรอน้ำจนจะไม่ไหวแล้ว ใบแห้ง ใบเหลืองหมดแล้ว
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็มาลองกันเลย ยกปั๊มเข้าไปต่อระบบ ลองสูบน้ำเข้่าระบบ ตอนแรกก็นึกว่าปั๊มน้ำจะปั๊มมาไม่ถึง จากสระมาถึงตรงแปลงชะอมนี้ก็ร่วมๆ 100 เมตรได้ แต่น้ำก็ยังแรงดีอยู่ แรงจนรัศมีการพ่นน้ำออกนอกแปลงชะอม
ต้องทำการหรี่วาล์วน้ำลง เพื่อให้รัศมีการพ่นน้ำพอดีกับชะอมในแปลงครับ สบายแล้วเรา ชะอมก็คงดีใจเช่นกัน น้ำมาแล้ว....
หัวมินิสปริงเกอร์แบบที่ผมเลือกใช้ จะพ่นน้ำออกมาลักษณะเป็นฝอยๆ และมีวงกว้างพอสมควร จะเอาวงกว้าง หรือวงแคบ ก็ปรับระดับขาปักให้สูง หรือต่ำเอา
เสียบปลั๊กทีเดียว ให้น้ำพรึ่บ....ทั่วทั้งแปลง สบายแล้วเรา... ดีกว่าลากสายยางฉีดทีละต้นเป็นไหนๆ รู้อย่างนี้ทำแต่แรกแล้ว แต่ก็คงทำไม่ได้หรอกครับ เพราะงบระบบน้ำเพิ่งจะได้มา ต่อจากนี้คงมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ.... สำรวจสวน ใส่ปุ๋ย ถางหญ้า ว่ากันไป แต่เดิมต้องเลือกเอาว่าวันนี้จะทำอะไร จะรดน้ำหรือว่าจะพรวนดิน ทำพร้อมๆ กันไม่ได้
ระดับน้ำในสระเดิม ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 ช่วงหน้าฝนผมก็เปิดให้น้ำจากลำเหมืองเข้ามาจนเต็ม แล้วก็ไม่ได้ใช้งานเลย มาวันนี้น้ำแห้งไปเกือบเมตรได้ คงเพราะช่วงหน้าหนาว เช้าๆ น้ำในสระระเหยกลายเป็นไอ ช่วงกลางวันก็ร้อน น้ำก็แห้งไปบ้าง ซึมลงดินบ้าง เสียดายจัง
หัวดูดน้ำผม มัดติดแกลลอนลอยไว้ ขึ้นลงตามระดับน้ำ
เจอปัญหาเข้าให้แล้วครับ เดิมทีผมใช้วิธีสูบน้ำใส่ร่องข้างแปลงชะอม แล้วใช้ที่ตักรดน้ำเอา ปั๊มน้ำก็ยกเข้า ยกออก จะใช้งานทีก็ยกมาติดตั้งกับท่อดูด แล้วสูบใส่แปลง เสร็จก็ยกไปเก็บในห้อง เพราะกลัวโดนขโมยปั๊มน้ำ เลยใช้ข้ออ่อน ซึ่งเป็นท่ออากาศของรถยนต์มาต่อ เป็นท่อที่ให้ตัวได้ จะคดซ้าย คดขวาไม่ใช่ปัญหา และอีกอย่างเวลาที่ถอดประกอบกับปั๊มน้ำจะง่าย แค่ขันปลอกรัดท่อก็ยกปั๊มน้ำไปเก็บได้แล้ว แต่คงด้วยที่ผมไม่ได้ใช้งานมานานในช่วงหน้าฝน พอเอามาสูบเข้ากับระบบท่อมันเลยมีอาการแบบนี้ แทบจะระเบิด เพราะแต่เดิมผมสูบใส่ร่อง มันไม่มีแรงดันกลับ แต่พอสูบเข้าท่อ มันมีแรงดันภายในท่อ พอไม่มีที่ออก หรือไหลออกทางสปริงเกอร์ไม่ทัน มันก็ดันท่อจนปริ และออกมาตามรูพรุน กลายเป็นน้ำพุไปเลย เป็นเฉพาะท่อทางออกนะครับ ท่อดูดไม่เป็น จะโดนไฟดูดหรือเปล่าเนี่ย
ไม่รู้ทำยังไง แก้ขัดไปก่อน หากระสอบปุ๋ยมามัดไว้ก่อน ก่อนที่จะโดนไฟดูด หรือเข้ากล่องระบบไฟของปั๊ม
ปั๊มที่ผมใช้งานก็มีหน้าตา และสเปคตามนี้ ปั๊มตัวนี้ไม่ใช่ของผม แต่เป็นของเจ้าของสวนที่เขาใช้งานอยู่ เขาเอาให้ผมใช้ในสวนด้วย โชคดีไปไม่ต้องซื้อใหม่ ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ถ่ายด้วยกล้องมือถือครับ
ให้ดูระยะการดูดจากสระถึงตัวปั๊ม และระยะทางที่ส่งน้ำไปจนถึงท้ายสวนโน่นที่เป็นแปลงชะอมและแปลงไผ่เป๊าะอยู่ ส่วนแปลงมะนาวอยู่ประมาณกลางสวนครับ
พอลองสูบน้ำดูอีกทีก็เป็นประมาณนี้ พอทนครับ ดีกว่าแบบน้ำพุหน่อย
บริเวณแปลงไผ่เป๊าะก็ใช้ระบบเดียวกัน แต่เป็นหัวมินิสปริงเกอร์อีกแบบหนึ่ง ทรงของน้ำก็คล้ายๆ กัน แต่อัตราการให้น้ำของหัวแบบนี้อยู่ที่ 150 ลิตร/ชั่วโมงครับตามสเปค แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำที่ส่งมาตามท่อด้วย ผมก็อาศัยดูหน้าดินเอา เอาชุ่มพอประมาณเข้าว่าครับ
สรุปว่าระบบน้ำผมเป็นไปได้ด้วยดี น้ำทั่วถึงทุกแปลง แต่ยังไม่ได้ต่อระบบครบทั่วทั้งสวนในส่วนที่ปลูกไปแล้ว ถ้าครบทุกโซนคงเปิดพร้อมกันไม่ได้ แรงดันคงจะลดลงไปมาก และอีกอย่างผมยังไม่ได้ใสฟิลเตอร์กรองน้ำเลย ถ้าใส่แรงดันก็คงจะลดลงไปอีกระดับหนึ่ง ถึงเวลานั้นก็คงต้องเลือกเปิดเป็นโซนๆ ไป หรือไม่ก็ต้องติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติม ถ้าต้องการรดน้ำทั่วทุกโซนในเวลาเดียวกัน
ท่านลูกค้าสามารถสอบถามราคาท่อพีวีซี ที่ได้ บริษัท บีเอสซีไพพ์อินเตอร์เทรด จำกัด
ตอบลบจำหน่ายท่อ PVC ราคาโรงงาน ราคาถูก พร้อมจัดส่งสินค้าทั่วประเทศไทย
โทร.086-589-2395 089-907-6447 089-194-9438
ไอดีไลน์ : BSCTH อีเมล์ : bsc@pipethailand.com
http://www.businessthailand2501.com/default.asp?content=mpagedetail&id=12221